- SEO (รากฐาน): การทำ SEO ยังคงสำคัญเหมือนเดิม มันคือการทำให้ Googlebot เข้ามา "เก็บข้อมูล" และ "จัดอันดับ" เว็บไซต์คุณได้ง่าย ทำให้มีคน (Traffic) เข้าเว็บไซต์คุณ
- GEO (วิวัฒนาการ): คือการทำให้ AI Bot สามารถ "เข้าใจ" "ตีความ" และ "สรุป" ข้อมูลในเว็บไซต์คุณได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำที่สุด ทำให้แบรนด์คุณถูกอ้างอิงในคำตอบของ AI
ดังนั้นการทำ SEO และ GEO ไปพร้อมกัน จึงเปรียบเหมือนการใช้ "คู่หูติดจรวด" ที่ส่งผลลัพธ์ซึ่งกันและกัน เพราะ SEO จะดึงคนเข้าเว็บ และ GEO จะสร้างความน่าเชื่อถือให้คนและ AI กลับมาหาคุณซ้ำ ๆ
สวัสดีครับ! เจ้าของธุรกิจและนักการตลาดทุกคนที่กำลังปั้นแบรนด์ให้เติบโตบนโลกดิจิทัล
ถ้าวันนี้คุณยังคิดว่าการทำธุรกิจออนไลน์ต้องอาศัยแค่ SEO (Search Engine Optimization) อย่างเดียว... บอกเลยว่าคุณกำลังพลาดโอกาสครั้งสำคัญที่สุดของยุค!
จริงอยู่ที่ SEO ทำให้เว็บไซต์คุณติดหน้าแรกของ Google แต่ในโลกที่ AI (Artificial Intelligence) กำลังเข้ามาตอบคำถามและสร้างคำตอบใหม่ ๆ ให้ผู้ใช้งานทันที... คุณจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ใหม่ที่เรียกว่า GEO (Generative Engine Optimization) เพื่อให้แบรนด์ของคุณกลายเป็น "คำตอบที่น่าเชื่อถือที่สุด" ที่ AI เลือกใช้และอ้างอิงถึง
บทความนี้เราจะมาเจาะลึกแบบไม่กั๊ก ทั้งเปรียบเทียบ กลยุทธ์ และขั้นตอนเริ่มต้นให้คุณลงมือทำได้ทันที!
Part 1: "SEO GEO" ต่างกันยังไง? ทำไมต้องทำคู่กัน?
ถ้าจะให้เปรียบเทียบแบบง่าย ๆ และเห็นภาพชัดเจนที่สุดสำหรับนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจ:

หัวใจสำคัญ: SEO คือคนเข้าเว็บ, GEO คือความน่าเชื่อถือของแบรนด์
นี่คือจุดที่คุณต้องทำความเข้าใจใหม่:
- SEO (รากฐาน): การทำ SEO ยังคงสำคัญเหมือนเดิม มันคือการทำให้ Googlebot เข้ามา "เก็บข้อมูล" และ "จัดอันดับ" เว็บไซต์คุณได้ง่าย ทำให้มีคน (Traffic) เข้าเว็บไซต์คุณ
- GEO (วิวัฒนาการ): คือการทำให้ AI Bot สามารถ "เข้าใจ" "ตีความ" และ "สรุป" ข้อมูลในเว็บไซต์คุณได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำที่สุด ทำให้แบรนด์คุณถูกอ้างอิงในคำตอบของ AI
ถ้าทำแต่ SEO จะเกิดอะไรขึ้น ?
เว็บคุณอาจจะติดอันดับ แต่ AI อาจเลือกแหล่งข้อมูลอื่นไปสรุปให้ผู้ใช้ เพราะเนื้อหาของคุณยังไม่ลึกพอ หรือโครงสร้างยังไม่ชัดเจน
ถ้าทำแต่ GEO จะเกิดอะไรขึ้น ?
เนื้อหาคุณดีมาก แต่ถ้า Technical SEO และ On-Page ไม่ดีพอ Google ก็จะไม่จัดอันดับ ทำให้ AI Bot หาคุณไม่เจอตั้งแต่แรก
ดังนั้นการทำ SEO และ GEO ไปพร้อมกัน จึงเปรียบเหมือนการใช้ "คู่หูติดจรวด" ที่ส่งผลลัพธ์ซึ่งกันและกัน เพราะ SEO จะดึงคนเข้าเว็บ และ GEO จะสร้างความน่าเชื่อถือให้คนและ AI กลับมาหาคุณซ้ำ ๆ
Part 2: ความสำคัญของ SEO ที่ต้องทำ และ GEO ที่ต้องมี
เจ้าของธุรกิจจำนวนมากเริ่มตั้งคำถามว่า “การทำ SEO ยังจำเป็นอยู่ไหม ในเมื่อ AI ตอบคำถามได้ทันที?” คำตอบคือ: จำเป็นอย่างยิ่ง และจำเป็นมากกว่าเดิมด้วย!
1. ความสำคัญของ SEO (รากฐานที่ไม่เคยตาย)
- สร้าง Organic Traffic ที่มีคุณภาพ: ผู้ที่ค้นหาด้วย Google มักเป็นผู้ที่มี Search Intent สูง พวกเขาพร้อมที่จะซื้อหรือใช้บริการเมื่อเจอคำตอบที่ใช่
- ลดต้นทุนการตลาดระยะยาว: การทำ SEO เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนต่อเนื่อง (ROI) ไม่ใช่การจ่ายเงินแบบรายวันเหมือน Paid Ads
สร้างความน่าเชื่อถือ (Trust): เว็บไซต์ที่ติดอันดับต้น ๆ บน Google มักถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนั้น ๆ (นี่คือส่วนที่เชื่อมโยงกับ GEO)
2. ขุมพลังของ GEO (Generative Engine Optimization)
เมื่อผู้คนเริ่มใช้ Generative AI (เช่น Gemini, ChatGPT, หรือ AI Overviews) มากขึ้น การถูก AI อ้างอิงในคำตอบจึงเป็นเหมือน "ป้ายรับรองความน่าเชื่อถือระดับสูง"
- เป็นที่รู้จักตั้งแต่ยังไม่คลิก: เนื้อหาของคุณจะถูกนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของคำตอบทันที แม้ผู้ใช้จะยังไม่คลิกเข้าเว็บไซต์คุณ นั่นคือการสร้าง Brand Awareness ที่ทรงพลังที่สุด
- ติดอันดับบนทุกแพลตฟอร์ม: ไม่ว่าผู้ใช้จะค้นหาที่ไหน หากเนื้อหาของคุณเป็นไปตามหลัก GEO, แบรนด์คุณก็จะถูกกล่าวถึง
- สร้าง Lead และยอดขาย (ผ่านการเป็นผู้เชี่ยวชาญ): เมื่อ AI สรุปข้อมูลโดยอ้างอิงถึงคุณในฐานะผู้เชี่ยวชาญ โอกาสที่ผู้ใช้จะจำชื่อแบรนด์และกลับมาหาคุณเมื่อต้องการคำปรึกษาจึงสูงขึ้นมาก
Case Study
จากบริการการทำ SEO ให้กับลูกค้าในธุรกิจ Automotive เราพบผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงในเชิงของ Traffic ที่ลดลงอย่างชัดเจนจากการ disrupt ของ GEO

แต่ Traffic ที่ลดลงไปกลับไปแสดงผลใน AI แทน ซึ่งแปลว่า Traffic ไม่ได้หายไปไหน แต่คนได้ผลลัพธ์จากการค้นหาโดยไม่ต้องเข้าเว็บไซต์ หรือ Zero click searches นั่นเอง

Part 3: ถ้าอยากทำ SEO และ GEO ให้ดีต้องเริ่มอย่างไร?
นี่คือ 3 ขั้นตอนแรกที่เราแนะนำให้คุณเริ่มทำได้ทันที เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งทั้งด้าน SEO และ GEO:
1. สร้างรากฐานให้แข็งแกร่งด้วย Technical SEO On-Page
ก่อนจะทำเนื้อหาลึกแค่ไหน ถ้าโครงสร้างเว็บไม่ดี AI ก็จะเก็บข้อมูลไม่ได้!
- Mobile-First Indexing: ตรวจสอบว่าเว็บไซต์คุณเป็นมิตรกับมือถือ 100%
- ความเร็วเว็บไซต์ (Page Speed): เว็บไซต์ต้องโหลดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
- จัดโครงสร้าง On-Page ที่ถูกต้อง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Title Tag, Meta Description, และ H1-H6 Headers มีการใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง และจัดลำดับเนื้อหาให้ชัดเจน (เหมือนการทำสารบัญบทความให้ AI อ่านง่าย)
2. เน้นการทำ Long-Form Content และ E-E-A-T
นี่คือหัวใจของการทำ GEO! เนื้อหาคุณต้องไม่ใช่แค่ยาว แต่ต้องลึก ถูกต้อง และน่าเชื่อถือ ตามหลัก E-E-A-T
- ความเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expertise): เนื้อหาต้องเขียนโดยหรืออ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ
- ความครอบคลุมและเชิงลึก: เนื้อหาต้องเป็นแบบ Long-Form ที่ตอบคำถามที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในหัวข้อนั้น ๆ ได้อย่างละเอียด
- การจัดโครงสร้างเนื้อหาที่ชัดเจน: ใช้หัวข้อ (Headings) และย่อหน้าสั้น ๆ เพื่อให้ AI สามารถสรุปข้อมูลจากบทความของคุณได้ง่ายขึ้น
3. ใช้ Structured Data (Schema Markup) ให้ AI เข้าใจง่ายที่สุด
GEO คือการทำให้ AI เข้าใจข้อมูล ไม่ใช่แค่อ่านข้อมูล การใช้ Structured Data คือวิธีที่คุณใส่โค้ดลับ ๆ เพื่อบอก AI ว่าข้อมูลไหนคืออะไร
- เริ่มต้นด้วย FAQ Schema: หากบทความคุณมีส่วนคำถามที่พบบ่อย (FAQ) การใส่ Schema นี้จะเพิ่มโอกาสให้เนื้อหาคุณปรากฏเป็นคำตอบที่เด่นชัดบน Google และเป็นแหล่งข้อมูลให้ AI
ใช้ How To Schema: หากเนื้อหาคุณเป็นขั้นตอนการทำ (เช่น วิธีทำ SEO GEO 5 ขั้นตอน) การใช้ Schema นี้จะช่วยให้ AI นำขั้นตอนของคุณไปแสดงผลได้ทันที
Part 4: GEO ทำเองได้หรือไม่?
GEO ทำเองได้หรือไม่? คำตอบคือ: ทำได้ทันที... หากมีประสบการณ์ในการทำ SEO มาก่อน
การทำ On-Page และ Technical SEO ที่รองรับ GEO เป็นงานที่ละเอียดอ่อนและเกี่ยวข้องกับโค้ดของเว็บไซต์โดยตรง
- การทำ On-Page และ Technical SEO: คุณสามารถเริ่มทำได้ทันทีหากคุณมีความรู้เรื่องการปรับโครงสร้างเว็บไซต์, การจัดการ Tag, และการใส่ Schema Markup หากคุณมีความรู้ด้านนี้อยู่แล้ว
- ความเสี่ยงของการทำเอง: ถ้าไม่แน่ใจว่าจะกระทบของเดิม หรือการปรับโครงสร้างเว็บผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว อาจส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ทั้งหมดของคุณทันที และทำให้เสีย Traffic อย่างรุนแรง
{{fastfact1}}
ก้าวแรกสู่การเป็นผู้นำตลาดด้วย SEO & GEO
ในยุคที่ AI กำลังครองโลกการค้นหา การทำ SEO ที่แข็งแกร่งเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่การทำ GEO (Generative Engine Optimization) ต่างหากที่จะพาแบรนด์ของคุณไปสู่จุดสูงสุดของการเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดที่ทุกคนต้องอ้างอิงถึง
ถ้าคุณพร้อมที่จะยกระดับธุรกิจของคุณ จากแค่การเป็นเว็บไซต์ที่ "ติดอันดับ" ไปสู่การเป็นแบรนด์ที่ "ถูกยกย่องเป็นผู้เชี่ยวชาญ" บนแพลตฟอร์ม AI ทุกรูปแบบ
อย่ารอช้า! ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาและวางกลยุทธ์ SEO GEO ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจคุณโดยเฉพาะ
Resources & References (แหล่งข้อมูลอ้างอิง)
Google Search Central: หลักการพื้นฐานของ Google Search และ Technical SEO
Google’s E-E-A-T Guidelines: หลักการที่เน้นความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นหัวใจของการทำ GEO (https://developers.google.com/search/docs/fundamentals/creating-helpful-content)
Schema.org Documentation: คู่มือเกี่ยวกับการทำ Structured Data ที่จำเป็นต่อการสื่อสารกับ Generative AI (https://schema.org/)
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์เรา:
https://www.bepgroup.space/blog/best-marketing-tools
https://www.bepgroup.space/blog/5-tricks-for-great-content
https://www.bepgroup.space/blog/boost-traffic-with-seo