E-Commerce website service

เว็บ ecommerce สําเร็จรูป

บริการรับทำเว็บไซต์ E-Commerce สำหรับธุรกิจออนไลน์

เว็บไซต์ E-commerce คืออะไร ?

เว็บไซต์ E-Commerce คือ การสร้างแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ หรือมีอีกชื่อว่า E-Marketplace เพื่อใช้สำหรับการดำเนินธุรกิจซื้อ-ขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ลูกค้าเข้ามาซื้อของผ่านเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกสบาย เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างลูกค้าและร้านค้า พร้อมทั้งมีระบบชำระเงินได้อย่างรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ซื้อง่าย-ขายคล่องสุด ๆ !

เว็บไซต์ E-commerce มีกี่ประเภท

เว็บไซต์ E-commerce จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

Pre-built E-Commerce website

มีการวางระบบและโครงสร้างมาให้ส่วนนึงแล้ว ตัวอย่างเช่น Wix / Shopify /Wordpressซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องออกแบบหน้าเว็บไซต์เพิ่มเติม โดยใช้ระบบหลังบ้านตามที่ทาง Platform ให้มา ข้อดีของเว็บไซต์ประเภทนี้คือสามารถสร้างได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับเว็บที่มีความซับซ้อนไม่มาก

Custom E-Commerce website

เป็นการเขียนเว็บไซต์ขึ้นเองทั้งหมดโดย Programmer ซึ่งจะต้องทำตั้งแต่ระบบหลังบ้าน ระบบชำระเงิน หน้าเว็บไซต์ ระบบปริ้น และอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับ Function ตามการใช้งาน ซึ่งเว็บไซต์ประเภทนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องมีการวางรากฐานใหม่หมด แต่ข้อดีคือสามารถปรับได้ตามใจชอบและ Scale ได้ดีกว่า

เว็บไซต์ E-commerce Website ควรประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ?

- รายละเอียดของสินค้าที่เรากำลังจะขาย
- ภาพประกอบสินค้า
- ระบบสั่งซื้อ / ตะกร้าสินค้า
- Search & Filter (หมวดหมู่สินค้า)
- สินค้าที่เกี่ยวข้อง
- โปรโมชั่น ข้อเสนอที่น่าสนใจ
- รีวิวจากผู้ใช้งานจริง
- หน้าเว็บไซต์ภาษา TH/EN
- ช่องทางการชำระเงิน
- ข้อมูลการจัดส่งสินค้า
-หน้าติดต่อเรา
- นโยบายการคืนสินค้า

การทำเว็บไซต์ E-Commerce ที่ดีต้องคำนำถึงอะไรบ้าง ?

1. User-Friendly มอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน

User-Friendlyคือ การจัดวางโครงสร้างหน้าเว็บไซต์ที่สามารถใช้งานง่าย จัดแบ่งหมวดหมู่สินค้าหรือบริการประเภทต่าง ๆ ออกกันอย่างชัดเจน ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถหาข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบาย แต่ในทางกลับกันถ้าหากหน้าเว็บไซต์มีความซับซ้อนมากเกินไป หมวดหมู่สินค้าปนกัน จ่ายเงินยากก็มีโอกาสสูงที่ทำให้ผู้ใช้งานปิดหน้าเว็บไซต์ทันทีและไม่คิดจะเข้ามาดูซ้ำ ดังนั้นการจัดวางหน้าเว็บไซต์แบบ User-Friendly จะช่วยมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง ตลอดจนช่วยเพิ่มยอดขายให้กับคุณได้อย่างต่อเนื่อง

2. ภาพประกอบคมชัด มีชัยไปกว่าครึ่ง!

ภาพประกอบนับว่าเป็นหัวใจหลักของการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ช่วยดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาชมสินค้าหรือบริการได้มากขึ้น เพราะถ้าหากใช้ภาพไฟล์แตก ไม่มีความคมชัด สีซีด ก็อาจทำให้ลูกค้าหมดความสนใจในสินค้าหรือบริการไปในทันที อีกทั้งยังทำให้แบรนด์ของคุณดูไม่เป็นมืออาชีพอีกด้วย ดังนั้นมาทำภาพประกอบในเว็บไซต์ให้ชัดด้วยWEBP Fileกันเถอะ!

3. จ่ายเงินง่าย ไม่ซับซ้อน

การมีรูปแบบช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย จะช่วยทำให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้งานได้ตามสะดวก จ่ายเงินได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรออะไรนาน ๆ ซึ่งถ้าหากเว็บไซต์ไม่มีช่องทางการชำระเงินที่ครอบคลุม ก็อาจทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไม่เลือกซื้อได้ในทันที ทำให้ยอดขายของคุณร่วงได้ง่าย ๆ

4. รีวิวจากผู้ใช้งานจริง

การมีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงบนเว็บไซต์จะช่วยทำให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือของสินค้าหรือบริการได้ง่ายยิ่งขึ้น นับว่าเป็นเทคนิคสำคัญที่ช่วยโน้มน้าวให้ผู้บริโภคกล้าที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของคุณดังนั้นการมีหน้าเว็บรีวิวจากผู้ใช้งานจริงจึงจำเป็นต่อการทำเว็บไซต์ E-commerce อย่างมากครับ

5. เว็บไซต์ต้องรองรับการทำ SEO

เว็บไซต์ E-commerce ที่สามารถรองรับการทำ SEOได้ จะยิ่งช่วยให้ Search Engine ดันหน้าเว็บไซต์ของคุณให้ติดอันดับต้น ๆ บนหน้าการค้นหาของ Google ทำให้มียอดการเข้าถึงเว็บไซต์แบบ Organic Traffic จำนวนมาก ไม่ต้องเสียเงินโปรโมทแม้แต่บาทเดียว อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับยอดเงินสำหรับการประมูลเหมือนกับการทำ Paid Searchที่ต้องแย่งชิงพื้นที่โฆษณากันตลอดเวลา ดังนั้นการทำเว็บไซต์ E-commerce ไปพร้อม ๆ กับการทำ SEO จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้เป็นอย่างดีครับ

1

ทำยอดขายได้ตลอดเวลาเพราะลูกค้าสามารถเข้าถึงร้านค้าและบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง

2

มีต้นทุนการขายที่ต่ำ เพราะไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องจ้างพนักงานขาย และไม่เสียค่าเช่าสถานที่

3

มีระบบหลังบ้านช่วยจัดการเพิ่ม-ลดสินค้าได้อย่างเรียลไทม์

4

เป็นแพลตฟอร์มที่ไร้พรหมแดน ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายได้ทั่วโลก

5

เป็นเครื่องมือที่สามารถสื่อสารตอบโต้กับลูกค้าได้อย่างสะดวก

6

ได้กำไรที่มากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการซื้อ-ขายผ่านตัวกลาง

7

เก็บข้อมูลลูกค้าได้โดยตรง ช่วยให้ทำการตลาดได้อย่างแม่นยำ

ทำไมถึงจำเป็นต้องมีเว็บไซต์ E-commerce

เว็บไซต์ E-commerce ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการซื้อ-ขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง หมดปัญหาการนั่งเฝ้าร้าน ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงาน ไม่ต้องเสียค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะเว็บไซต์มีระบบหลังบ้านที่สามารถดำเนินธุรกิจได้เอง จัดการสต๊อกสินค้าแบบเรียลไทม์

นอกจากนี้เว็บไซต์ E-commerce ยังสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างหลากหลาย เก็บข้อมูลลูกค้าที่เคยเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านตัวกลาง นำข้อมูลไปทำการตลาดได้อย่างตรงจุด วัดผลได้อย่างทันใจ หากใครอยากขายของได้เยอะๆ เพิ่มยอดขายให้ปัง ๆ การมีเว็บไซต์ E-commerce จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุดครับ!

Clients We Worked With

สนใจปรึกษาเรา

เริ่มพูดคุยกับเราเพื่อเริ่มต้นโปรเจกต์ของคุณ