เคยสงสัยมั้ย? สินค้าดี บริการชัด งบการตลาดก็มี แต่ยอดขายกลับโตไม่เท่าที่ควร อาจเป็นเพราะทุกคนรับรู้พร้อมกันจากโฆษณาที่ถูกปล่อยออกมาเรื่อย ๆ หรือการโฆษณาแบบหว่าน จนรู้สึกว่าแบรนด์นี้ไม่ได้พูดคุยกับคุณจริง ๆ
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากการทำการตลาดไม่เก่ง แต่เกิดจากการวางโครงสร้างการตลาดที่ไม่ชัดตั้งแต่ต้น และหนึ่งในแนวคิดพื้นฐานที่ช่วยจัดระเบียบการตลาดทั้งหมดได้ก็คือ STP Marketing
STP Marketing คืออะไร
STP Marketing คือ แนวคิดทางการตลาดที่ช่วยให้ธุรกิจรู้ว่าควรขายให้ใคร ควรโฟกัสกลุ่มไหน และควรสื่อสารกับกลุ่มนั้นอย่างไร โดยประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ Segmentation, Targeting และ Positioning
3 องค์ประกอบของ STP Marketing

1. Segmentation: แบ่งตลาดให้เห็นภาพจริง
ขั้นแรกของ STP คือการแบ่งตลาด หรือ Segmentation ธุรกิจไม่ควรมองลูกค้าเป็นกลุ่มก้อนเดียว เพราะความจริงแล้ว คนที่สนใจสินค้าเดียวกัน อาจมีเหตุผลในการซื้อที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
การแบ่งตลาดช่วยให้เห็นว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มมีลักษณะ ความต้องการ และพฤติกรรมแตกต่างกันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ รายได้ ไลฟ์สไตล์ พฤติกรรมการซื้อ หรือแม้แต่ทัศนคติที่มีต่อแบรนด์
เมื่อแบ่งตลาดชัด ธุรกิจจะเริ่มมองเห็นว่าใครคือกลุ่มที่มีโอกาสเป็นลูกค้ามากที่สุด และใครคือกลุ่มที่ไม่จำเป็นต้องทุ่มงบการตลาดไปด้วย ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณในระยะยาว
2. Targeting: เลือกกลุ่มที่ควรโฟกัสจริง ๆ
หลังจากเห็นภาพตลาดทั้งหมดแล้ว ขั้นต่อมาคือการเลือกกลุ่มเป้าหมาย หรือ Targeting ไม่ใช่ทุกกลุ่มที่ควรเข้าไปทำตลาด และไม่ใช่ทุกกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า
Targeting คือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ว่าธุรกิจควรโฟกัสใครเป็นหลัก โดยพิจารณาจากศักยภาพของตลาด ความเหมาะสมกับสินค้า และความสามารถในการแข่งขันของแบรนด์
หลายแบรนด์พลาดตรงจุดนี้ เพราะกลัวเสียโอกาส เลยพยายามขายให้ทุกคนพร้อมกัน ผลลัพธ์คือการสื่อสารที่ไม่ชัด ไม่มีจุดเด่น และไม่โดนใจใครเป็นพิเศษ การเลือกกลุ่มเป้าหมายให้แคบลง ไม่ได้ทำให้ตลาดเล็กลง แต่กลับทำให้การขายง่ายขึ้น
3. Positioning: วางตำแหน่งให้ลูกค้าจำได้
ขั้นสุดท้ายของ STP คือ Positioning หรือการวางตำแหน่งแบรนด์ในใจลูกค้า หลังจากรู้แล้วว่าจะขายให้ใคร สิ่งสำคัญคือการทำให้กลุ่มเป้าหมายนั้นเข้าใจทันทีว่า แบรนด์ของคุณต่างจากคู่แข่งอย่างไร
Positioning ไม่ได้อยู่แค่ในคำโฆษณา แต่สะท้อนผ่านทุกอย่าง ตั้งแต่ข้อความบนเว็บไซต์ โทนการสื่อสาร ราคา รูปแบบบริการ ไปจนถึงประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับ
หาก Positioning ชัด ลูกค้าจะไม่ต้องคิดนานว่าแบรนด์นี้เหมาะกับเขาหรือไม่ เพราะคำตอบจะชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น นี่คือเหตุผลว่าทำไมบางแบรนด์ถึงไม่ต้องแข่งราคา แต่ยังขายได้อย่างต่อเนื่อง
STP Marketing สำคัญกับการตลาดอย่างไร?
หลายคนมอง STP Marketing เป็นเรื่องเรียนในห้อง แต่ในความเป็นจริงแล้ว STP คือรากฐานของการตลาดที่ได้ผล ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็กหรือใหญ่ หากไม่เริ่มจากการแบ่งตลาด เลือกกลุ่มเป้าหมาย และวางตำแหน่งให้ชัด การตลาดที่ทำต่อจากนั้นมักจะเสียแรงมากกว่าที่ควร
STP ที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจรู้ว่าควรพูดอะไร กับใคร และควรพูดอย่างไรในแต่ละช่องทาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้การขายง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้แรงมากขึ้น
ประโยชน์ของการวาง STP Marketing
เมื่อ STP ถูกวางอย่างถูกต้อง การตลาดทุกส่วนจะเริ่มทำงานสอดคล้องกัน คอนเทนต์จะไม่ถูกสร้างแบบสุ่ม แต่มีเป้าหมายชัดว่าจะเขียนให้ใครอ่าน เว็บไซต์จะไม่ใช่แค่สวย แต่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เลือกไว้ โฆษณาจะไม่ยิงกว้าง แต่สื่อสารได้ตรงประเด็นมากขึ้น
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ Conversion ที่ดีขึ้น ค่าโฆษณาที่ลดลง และประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีขึ้น เพราะเขารู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจเขาจริง ๆ ไม่ได้พยายามขายให้ทุกคนเหมือนกันหมด
สรุปได้ว่า STP Marketing เป็นครื่องมือที่ช่วยจัดระเบียบการตลาดทั้งหมดให้ชัด ตั้งแต่การมองตลาด การเลือกกลุ่มลูกค้า ไปจนถึงการสร้างภาพจำของแบรนด์ ธุรกิจที่วาง STP ชัด จะไม่ต้องเดาทาง และไม่ต้องลองผิดลองถูกซ้ำ ๆ
BEP Digital Agency พร้อมช่วยธุรกิจของคุณวิเคราะห์ตลาด วาง STP Marketing ให้ชัด และต่อยอดไปสู่การทำเว็บไซต์ คอนเทนต์ และแคมเปญการตลาดที่สอดคล้องกันทั้งระบบ ติดต่อเราได้เลย!

