Back

Martech Tools ทีสาย SEO ไม่ควรพลาด! Ep.1

Table of Contents

อย่างที่รู้กันว่าการทำ SEO ถือเป็นงานหินที่ต้องใช้ระยะเวลานานถึงจะเห็นผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ซึ่งคุณต้องหมั่นปรับปรุง (Optimize) เว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณได้รับคะแนนความน่าเชื่อถือจาก Google จนกลายเป็นเว็บไซต์ที่ติดอันดับต้น ๆ บนหน้าแสดงผล SERP หรือหน้าผลลัพธ์การค้นหาของ Google

ซึ่งการทำ SEO ก็เป็นวิธีที่ช่วยทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาหาคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มจำนวนคนเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างยั่งยืนมากกว่าการเสียเงินโฆษณา โดยในปัจจุบันการดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้น ๆ บน Google ก็จำเป็นต้องอาศัยการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยทำให้ SEO เกิดประสบผลสำเร็จ

วันนี้เราจึงได้รวบรวม Martech Tools จาก Google ที่สาย SEO ไม่ควรพลาด ถ้าอยากปั้นเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกบน Google ซึ่งจะมีเครื่องมืออะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ

Martech Tools คืออะไร ?

Martech ย่อมาจากคำว่า Marketing Technology คือ เครื่องมือที่ถูกใช้งานโดยนักการตลาดที่ต้องการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ทำให้เข้าใจความคิดของลูกค้า และเป็นตัวช่วยที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ Martech Tools ก็คล้าย ๆ กับคำว่า SEO Tools เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยดันให้เว็บไซต์ติดอับดันดับต้น ๆ เพียงแต่ว่าเราจะนับ SEO Tools ให้เป็นส่วนหนึ่งของ Martech Tools ด้วยนั่นเองครับ

Martech Tools จาก Google ที่ช่วยดัน SEO ให้ติดหน้าแรก มีอะไรบ้าง ?

Google Trend

seo tools

Google Trend เป็นเครื่องมือที่จะช่วยค้นหาเรื่องที่กำลังมาแรงในช่วงนั้น ๆ เพื่อนำมาเป็นไอเดียในการคิดหัวข้อและเขียนคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์กระแสหรือคอนเทนต์ในอนาคตก็ได้ทั้งหมด อย่างเช่น คำว่า Girl Math กำลังฮิตในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เราก็สามารถนำมาเขียนคอนเทนต์ได้ครับ ดังนั้น Google Trend จึงเป็นตัวช่วยที่จะทำให้คุณคิดคอนเทนต์ได้อย่างไหลลื่น รับรองว่าไอเดียไม่มีตันแน่นอน!

Google Keyword Planner

ทำ seo

ก่อนจะทำ SEO เราก็ต้องเช็ค Keyword ก่อนว่าคำหรือวลีไหนกำลังฮิต ผู้ใช้งานกำลังค้นหาคีย์เวิร์ดอะไรกันอยู่ เพื่อที่จะทำให้ผู้ใช้งานเสิร์ชมาเจอเว็บไซต์ของคุณได้มากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากคุณเลือก Keyword ผิดตั้งแต่แรก ก็อาจทำให้คอนเทนต์ตกไปอยู่หน้าท้าย ๆ ไม่ว่าจะทำคอนเทนต์ดีแค่ไหนก็ไม่สามารถดันขึ้นมาอยู่อันดับต้น ๆ ได้ ดังนั้นการใช้ Google Keyword Planner ก็จะสามารถช่วยเช็ค Search Volume ของคีย์เวิร์ดนั้น ๆ ก่อนนำไปเขียนลงบนคอนเทนต์ได้ครับ

Google Analytics

seo คือ

เราสามารถดูข้อมูลทั้งหมดของเว็บไซต์ได้ผ่าน Google Analytics ไม่ว่าจะเป็น Organic Search, Users, Sessions, Pageview, Bounce Rate, Exit Rate, Avg. Time on Page และช่องทางที่ผู้ใช้งานเข้ามาที่เว็บไซต์ รวมถึงยังสามารถดูถึงสัดส่วนข้อมูลเชิงประชากรของผู้เข้าเว็บไซต์ได้อีกด้วย ดังนั้นเมื่อเราทราบว่าผู้ใช้งานที่เข้ามาชมเว็บไซต์คือใคร เราก็จะสามารถหาหัวข้อเพื่อเขียนคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้นั่นเองครับ

Google Search Console

รับจ้าง ทำ seo

Google Search Console คือ เครื่องมือรายงานการเข้าชมเว็บไซต์ ที่สามารถตรวจสอบคุณภาพและข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในเว็บไซต์ได้อย่างละเอียด เช่น การตรวจสอบPage Not Found 404 และ Mobile Friendly เป็นต้น เพื่อนำข้อผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไขให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

โดยเครื่องมือ Google Search Console จะประกอบไปด้วยฟีเจอร์หลายอย่าง เช่น Impression, Click, CTR (Click-Through Rate), Keyword, Average Position หรืออันดับเฉลี่ยของหน้าเว็บที่ติดอยู่บน Search Engine และ Page Experience หรือประสบการณ์การใช้งานบนจอมือถือและเดสก์ท็อป ซึ่งค่าทั้งหมดนี้ก็ล้วนแต่จะช่วยให้เราทำ SEO ได้อย่างตรงจุดและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด ดังนั้น Google Search Console จึงนับว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกบนGoogle ได้มากจริง ๆ ครับ

Google SERP Snippet Optimizer Tool

การ ทำ seo

หลักการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพ คือต้องเขียน Title และ Description ที่แสดงบน Search Engine ให้มีใจความที่สมบูรณ์มากที่สุด เราจึงจำเป็นต้องใช้ตัวช่วยอย่าง Google SERP Snippet Optimizer Tool ในการจำลองว่าถ้าเราใส่ข้อความทั้งหมดแล้ว หน้าจอ Search Engine จะแสดงผลแบบไหน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ส่วนสำคัญอย่าง Keyword ถูกตัดออกไปจนกลายเป็นจุดไข่ปลา (…) ซึ่งอาจส่งผลให้ Google ไม่ให้คะแนนการทำ SEO และไม่ดึงดูดให้ผู้ใช้งานเข้ามาอ่านต่อด้วยนั่นเอง!

PageSpeed Insights

seo คือ

“ความเร็วของเว็บไซต์” หรือ PageSpeed  ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ Google ให้ความสำคัญ ถ้าเว็บไซต์โหลดข้อมูลช้าก็จะทำให้ความน่าเชื่อถือลดน้อยลง ส่งผลให้ Google ให้คะแนนเว็บไซต์น้อยลงไปด้วย การจัดอันดับเว็บไซต์ก็จะอยู่หน้าท้าย ๆ  แต่ถ้าเว็บไซต์มีการโหลดข้อมูลที่รวดเร็วทันใจผู้ใช้งาน ก็จะทำให้ความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น Google ก็ให้คะแนนตามความน่าเชื่อถือ เว็บไซต์ของคุณก็จะถูกดันขึ้นมาอยู่อันดับต้น ๆ

โดยเราสามารถอาศัยการใช้เครื่องมือ PageSpeed Insights ในการวัดความเร็วของเว็บไซต์ได้ ซึ่งบางเว็บไซต์อาจมีความเร็วสูงเมื่อแสดงผลบนหน้าจอเดสก์ท็อป แต่เมื่อนำไปเปิดบนมือถือก็อาจมีความเร็วที่ต่ำลง ดังนั้นเครื่องมือ PageSpeed Insights จึงเป็นตัวช่วยสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาได้อย่างทันเวลา มิเช่นนั้นเว็บไซต์ของคุณอาจตกลำดับไปหน้าท้าย ๆ โดยไม่รู้ตัว!

นี่คือเครื่องมือ Martech Tools จาก Google ที่สาย SEO ควรนำมาใช้ในการปั้นเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรก แถมยังช่วยให้การทำ SEO เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด จับจุดได้ว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหนและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันเวลา แต่นอกจาก Martech Tools จาก Google แล้ว เรายังมี Martech Tools จาก Ahrefs มาแนะนำต่ออีกด้วย ตามไปอ่านกันได้ที่ Martech Tools ที่สาย SEO ไม่ควรพลาด! Ep.2

{{CTA="/blog"}}

Blogs Recommended

Back to top