ในยุคที่ผู้คนเข้าถึงทุกอย่างผ่านโซเชียลมีเดีย การจะทำคอนเทนต์จำเป็นจะต้องผ่านการวางแผนและพิจารณามาเป็นอย่างดีก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องรู้จักกับ Content Pillar เพื่อเป็นการจัดระเบียบคอนเทนต์ของคุณ ช่วยให้คอนเทนต์ของคุณดูเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้ถูกจุดนั่นเอง

‍

คอนเทนต์ที่ดีจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจของคุณได้ การทำ Content Pillar เพื่อสร้างคอนเทนต์จึงมีความจำเป็นอย่างมาก ในบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Content Pillar ว่าคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร รวมถึงขั้นตอนการสร้าง Content Pillar ที่ดีมีอะไรบ้างกันค่ะ

‍

‍

Content Pillar คืออะไร?

Content Pillar หรือเสาหลักคอนเทนต์ คือการสร้างหัวข้อหรือหมวดหมู่หลักให้กับคอนเทนต์ เรียกง่ายว่า ๆ เป็นการวางโครงสร้างเนื้อหาของคอนเทนต์ เพื่อจัดเนื้อหาคอนเทนต์ให้เชื่อมโยงและต่อเนื่องกัน รวมถึงทำให้คอนเทนต์ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย

‍

โดย Content Pillar จะช่วยให้คุณกำหนดรูปแบบเนื้อหาของคอนเทนต์ได้เหมาะสมว่าคอนเทนต์ที่คุณจะทำเป็นคอนเทนต์สำหรับใคร เกี่ยวกับอะไร และเหมาะที่จะอยู่ในแพลตฟอร์มไหนบ้างนั่นเอง

‍

‍

ประเภทของ Content Pillar มีอะไรบ้าง?

1. แบ่งตามประเภทเนื้อหาของคอนเทนต์

• Lifestyle คอนเทนต์แนว Lifestyle หรือคอนเทนต์ทั่วไปในชีวิตประจำวันที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น ท่องเที่ยว อาหาร แฟชั่น ฯลฯ
• Education คอนเทนต์ให้ความรู้หรือสาระต่าง ๆ สามารถเป็นได้ทั้งความรู้ทั่วไปหรือเป็นความรู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
• Real Time คอนเทนต์ตามกระแสหรือสิ่งที่กำลังเป็นไวรัลในขณะนั้น เช่น เหตุการณ์ คำพูดยอดฮิต ประเด็นต่าง ๆ ฯลฯ
• Seasoning Content คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลหรือวันหยุด วันสำคัญต่าง ๆ เช่น วาเลนไทน์ ลอยกระทง คริสต์มาส ฯลฯ

2. แบ่งตามวัตถุประสงค์ของธุรกิจ

• Brand Awareness คอนเทนต์ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่จดจำและเป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมาย รวมไปถึงในวงกว้าง
• Engagement คอนเทนต์ที่ทำให้เกิดความสนใจและสร้างการมีส่วนร่วม เช่น มีการ Like, Share และ Comment 
• Selling คอนเทนต์ที่ช่วยกระตุ้นและเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ เช่น แนะนำสินค้า โปรโมชันลดราคา ฯลฯ
• Review คอนเทนต์ที่นำเสนอผลลัพธ์หลังการใช้งาน ความคิดเห็น หรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริง 

‍

‍

Content Pillar มีประโยชน์อย่างไร?

1. เนื้อหาตรงกลุ่มเป้าหมาย

Content Pillar ช่วยให้คุณนำเสนอคอนเทนต์ได้ตรงกับความสนใจและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย หากคอนเทนต์ของคุณเป็นที่สนใจก็จะก่อให้เกิดการ Like และการ Share ต่อ เพิ่มการมองเห็นในวงกว้างให้กับธุรกิจของคุณได้อีกด้วย

2. เพิ่มการมองเห็นและเข้าชมเว็บไซต์

Content Pillar ช่วยให้เนื้อหาคอนเทนต์ของคุณเป็นระบบมากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการค้นหาเนื้อหาคอนเทนต์ที่ต้องการทราบในเว็บไซต์ รวมถึงช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าชมเว็บไซต์และง่ายต่อการจัดอันดับผลการค้นหาใน Google 

3. วาง Keyword ในการเขียนคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น

การทำ Content Pillar เพื่อจัดหมวดหมู่ของเนื้อหาคอนเทนต์ให้เป็นระเบียบ จะช่วยให้คุณสามารถวาง Keyword ของเนื้อหาได้ครอบคลุมและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และเพิ่มโอกาสให้อันดับเว็บไซต์ของคุณบน Google สูงขึ้นด้วย

4. สร้างความหลากหลายในการนำเสนอ

Content Pillar จะช่วยสร้างความหลากหลายในการนำเสนอคอนเทนต์ได้ เพราะรูปแบบของคอนเทนต์มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบทความ อินโฟกราฟิก หรือวิดีโอ เพิ่มโอกาสในการมองเห็นคอนเทนต์ของคุณจากหลากหลายช่องทาง

‍

‍

ขั้นตอนการสร้าง Content Pillar

1. กำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์

ก่อนเริ่มต้นควรกำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ของธุรกิจก่อน เพราะการจะทำ Content Pillar ได้ควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อกำหนดตัว Pillar และทิศทางของคอนเทนต์ เช่น หากต้องการเพิ่มยอดขายสินค้า ควรทำคอนเทนต์เกี่ยวกับตัวสินค้าเพื่อกระตุ้นการซื้อขาย เป็นต้น

2. วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย

วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้องการให้คอนเทนต์ของคุณเข้าถึงคนกลุ่มใด เช่น อายุ เพศ พฤติกรรม ฯลฯ เพื่อให้เข้าใจถึง Pain Points ของกลุ่มเป้าหมาย และทำคอนเทนต์ออกมาได้มีประโยชน์หรือตรงตามความต้องการและความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้

3. ศึกษาคู่แข่ง

ศึกษาคู่แข่งที่อยู่ในแวดวงธุรกิจเดียวกันกับคุณว่าเขามีการทำคอนเทนต์ในลักษณะไหน มีเนื้อหาคอนเทนต์อะไรบ้าง รวมถึงเนื้อหาในหัวข้อไหนที่ยังไม่มี เพื่อให้คุณสามารถวางแผนได้ว่าจะทำคอนเทนต์ออกมาในลักษณะไหนและแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร

4. เลือกหัวข้อให้เหมาะสม

เมื่อคุณได้ทั้งวัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย และศึกษาคู่แข่งเรียบร้อยแล้ว ก็นำข้อมูลทั้งหมดนี้มาใช้เป็นเครื่องมือในการพิจารณาหัวข้อหลักของ Content Pillar เพื่อกำหนดทิศทางและรูปแบบของเนื้อหาคอนเทนต์ให้เป็นไปในแนวทางที่คุณต้องการ

5. กำหนดรูปแบบและช่องทางในการเผยแพร่

เมื่อคุณได้ Content Pillar เรียบร้อยแล้ว ควรกำหนดรูปแบบของคอนเทนต์ว่าต้องการจะทำคอนเทนต์ประเภทไหนและเผยแพร่ลงในช่องทางใดถึงจะเหมาะสม เช่น หากเป็นรูปภาพควรจะลงใน Facebook, Instagram หากเป็นวิดีโอสั้นควรลงใน TikTok หรือ Instagram Reels ฯลฯ

‍

‍

การทำ Content Pillar ช่วยกำหนดทิศทางในการทำธุรกิจของคุณให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หากคุณวางแผนในการทำคอนเทนต์มาเป็นอย่างดี จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเนื้อหาคอนเทนต์ของคุณได้มากขึ้น และยังช่วยสร้างการรับรู้ให้กับธุรกิจของคุณได้อีกด้วยค่ะ

‍