การสื่อสารแบรนด์ให้โดดเด่นและน่าจดจำไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ Motion Graphic กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถสื่อสารข้อความที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายขึ้นได้ พร้อมดึงความสนใจของผู้ชมตั้งแต่เสี้ยววินาทีแรก

‍

หลายแบรนด์ใหญ่ในไทยและต่างประเทศก็เลือกใช้ Motion Graphic เป็นแกนหลักของแคมเปญโฆษณา ทั้งในโซเชียลมีเดีย โฆษณาทีวี หรือเว็บไซต์ เพราะมันช่วยสื่อสารประโยชน์ของสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

‍

วันนี้เราจะพาไปดูตัวอย่างการใช้ Motion Graphic จากทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าภาพเคลื่อนไหวจะสามารถยกระดับการสื่อสารของแบรนด์ได้อย่างแท้จริง ไปดูกันเลย!

‍

‍

ตัวอย่าง Motion Graphic ในแบรนด์ไทย

‍

SCB (ธนาคารไทยพาณิชย์)

‍

SCB ใช้ motion graphic ในแคมเปญ “มณี Business Booster” ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการ โดยนำเสนอข้อความหลักว่า “ธุรกิจจะสำเร็จได้ต้องเลือกโฟกัส เช็คให้ชัวร์ โฟกัสให้ถูกจุด” ผ่านงานโมชันกราฟิกที่กระชับ ทันสมัย และเข้าใจง่าย ทำให้ผู้ชมเห็นภาพการประเมินความพร้อมทางธุรกิจ และวิธีที่แพลตฟอร์มช่วยแนะนำโซลูชันที่เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจได้อย่างชัดเจน

‍

‍

AIS

‍

แคมเปญ “AIS Fibre” ใช้ motion graphic เพื่ออธิบายความเร็วอินเทอร์เน็ตและบริการต่าง ๆ ด้วยโมชันกราฟิกที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว สีสันสดใส และไอคอนที่สื่อความหมายชัดเจน วิธีนี้ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจว่าบริการของ AIS มีคุณสมบัติเด่นอย่างไร โดยไม่ต้องอ่านรายละเอียดยาว ๆ

‍

‍

TrueMove H

‍

ทรูนำเสนอการทดสอบเครือข่าย 5G ครั้งแรกในประเทศไทย โดยใช้ Motion Graphic เพื่อแสดงถึงความเร็วอินเทอร์เน็ต 5G เช่น เอฟเฟกต์เส้นพลังงานที่แสดงถึงความเร็วและความแรงของสัญญาณ 5G 

สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ชมเห็นภาพที่เป็นนามธรรมอย่างคลื่นสัญญาณให้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เข้าใจง่าย และยังสร้างความรู้สึกทันสมัย ล้ำอนาคต

‍

‍

CP Freshmart

‍

CP Freshmart ใช้ Motion Graphic แนะนำสินค้าและโปรโมชั่น ทำให้ข้อความซับซ้อนกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวที่เข้าใจง่าย และลดขั้นตอนการสื่อสาร ตัวอย่างเช่น การแสดงรายการสินค้าโปรโมชั่นในรูปแบบไอคอนและภาพเคลื่อนไหว ทำให้ลูกค้าจับใจได้ทันที

‍

‍

Toyota Thailand

‍

Toyota ใช้ Motion Graphic เพื่อแนะนำฟีเจอร์รถยนต์ โดยเน้นการแสดงข้อมูลเชิงเทคนิคให้ง่ายต่อการเข้าใจ เช่น ระบบความปลอดภัย การขับขี่ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ผ่านอินโฟกราฟิกเคลื่อนไหว ทำให้ผู้ชมเข้าใจฟีเจอร์เชิงเทคนิคได้ง่ายขึ้น และเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อ

‍

‍

ตัวอย่าง Motion Graphic ในแบรนด์ต่างประเทศ

‍

Coca-Cola

‍

Coca-Cola ใช้ Motion Graphic เพื่อสร้างความรู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา เช่น การเคลื่อนไหวของขวดน้ำ เอฟเฟกต์ฟองอัดลม และสีแดงสดอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ทุกองค์ประกอบถูกทำให้เคลื่อนไหวอย่างสนุกสนานและจังหวะดนตรีที่กระตุ้นอารมณ์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกกระหายและอยากมีส่วนร่วมกับแบรนด์ทันที

‍

‍

Nike

‍

Nike ใช้ Motion Graphic เพื่อเน้นเทคโนโลยี “Foam” ของรองเท้าวิ่ง โดยออกแบบเอฟเฟกต์กราฟิกที่ลื่นไหลและโครงสร้าง 3D เคลื่อนไหวแสดงการทำงานของพื้นรองเท้า กราฟิกเส้นโค้ง นุ่ม และการขยาย-หดของโฟมถูกเล่าอย่างมีจังหวะ ทำให้ผู้ชมเข้าใจได้ทันทีว่าโฟมช่วยลดแรงกระแทกและรองรับการวิ่งได้ดีกว่าแบบเดิม

‍

‍

Google

‍

Google ใช้ Motion Graphic เพื่อเล่าเรื่องยุคใหม่ของ AI “Gemini” โดยใช้ Typography ที่เคลื่อนไหวไปพร้อมเนื้อหา เพื่อเน้นข้อความสำคัญ ทำให้ผู้ชมจดจำได้ทันที

‍

‍

Apple

‍

Apple ใช้ Motion Graphic ผสมกับการเรนเดอร์ 3D เพื่อเล่าเรื่องฟีเจอร์ใหม่ของ iPhone 17 Pro ไม่ว่าจะเป็นวัสดุตัวเครื่อง ชิปประมวลผล และประสิทธิภาพกล้อง กราฟิกเคลื่อนไหวถูกออกแบบให้เรียบหรู มีมิติ และซ้อนเข้ากับภาพจริงของตัวเครื่องอย่างลงตัว ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจเทคโนโลยีได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้คำอธิบายมาก

‍

‍

Spotify

‍

ทุกปี Spotify Wrapped ใช้ motion graphic ในการสร้าง Infographic เคลื่อนไหว แสดงเพลงและศิลปินยอดนิยม สวยงามและแชร์ได้ง่ายบนโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสนุกและเกิดการมีส่วนร่วม

‍

‍

ทำไมแบรนด์ควรทำ Motion Graphic

1. Motion Graphic ช่วยให้เข้าใจง่าย

Motion Graphic ช่วยแปลงข้อความหรือข้อมูลที่ซับซ้อนให้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวที่เข้าใจง่าย ผู้ชมสามารถรับข้อมูลได้รวดเร็วโดยไม่ต้องอ่านตัวหนังสือเยอะ ๆ

‍

2. ภาพเคลื่อนไหวช่วยดึงความสนใจได้ดี

คอนเทนต์ที่เคลื่อนไหวมีความน่าสนใจกว่าข้อความธรรมดา โมชันกราฟิกจะสามารถดึงสายตาผู้ชมตั้งแต่เสี้ยววินาทีแรก ทำให้พวกเขาอยากติดตามต่อ

‍

3. ช่วยเพิ่ม Engagement จากผู้ชม

Motion Graphic ทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมได้ง่าย เนื้อหาที่น่าสนใจสามารถแชร์ต่อบนโซเชียลมีเดีย เพิ่มการมองเห็นของแบรนด์และสร้างโอกาสให้ผู้คนเข้ามามีปฏิสัมพันธ์

‍

4. สร้างภาพจำแบรนด์ โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

การใช้สไตล์ สี และตัวละครที่สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ในโมชันกราฟิก จะช่วยให้ผู้ชมจดจำแบรนด์ได้เร็วและยาวนาน ทำให้แบรนด์โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

‍

‍

ดังนั้นการทำ Motion Graphic จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์สื่อสารได้ตรงใจผู้ชมมากขึ้น ทั้งการแปลงข้อมูลซับซ้อนให้เข้าใจง่ายขึ้น การดึงดูดความสนใจ และการสร้างภาพจำที่ชัดเจน

‍

จากตัวอย่างทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศก็สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมใด Motion Graphic ก็สามารถทำให้คอนเทนต์ของแบรนด์มีชีวิตชีวา เข้าถึงผู้ชมได้ง่าย และถูกจดจำได้ยาวนาน

‍

หากคุณอยากสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นด้วย Motion Graphic ทางทีม BEP Digital Agency พร้อมช่วยคุณออกแบบและสร้าง Motion Graphic ที่ทั้งสวยงามและตอบโจทย์การตลาดจริง คลิกเลย!