Back

รู้จัก Content Pillar กลยุทธ์วางโครงคอนเทนต์ให้เว็บไซต์แข็งแรง

Fast Fact

Fast Fact

Fast Fact

สิ่งที่น่าสนใจ

หลายคนเขียนคอนเทนต์เก่ง แต่ทำไมเว็บไซต์ยังไม่ขยับอันดับใน Google สักที? หนึ่งในเหตุผลหลักคือ ไม่มีโครงคอนเทนต์ที่ชัด หรือพูดง่าย ๆ คือ เขียนกระจัดกระจายจน Google เองก็ไม่รู้ว่าเว็บไซต์นี้พูดเรื่องอะไรเป็นหลัก

ตรงนี้แหละ Content Pillar จึงเข้ามาช่วยทำให้ทุกอย่างเป็นระบบมากขึ้น วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า Content Pillar คืออะไร และสำคัญอย่างไรต่อการเขียนคอนเทนต์ตามหลัก SEO บนเว็บไซต์ ไปดูกันเลย!

Content Pillar คืออะไร

ที่มาภาพ: semrush

Content Pillar คือ โครงหลักของคอนเทนต์บนเว็บไซต์ที่ใช้เป็นแกนกลางในการแตกหัวข้อย่อยออกมาอีกที เหมือน “เสาเอก” ของบ้าน ที่คอยค้ำให้โครงสร้างทั้งหมดมั่นคงและสัมพันธ์กัน

ลองนึกภาพแบบนี้ ถ้าคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ เสาหลัก (Pillar) อาจคือ “SEO”, “Social Media Marketing”, “Content Strategy” ส่วนหัวข้อย่อย (Cluster) ก็จะเป็นบทความเชิงลึก เช่น

  • SEO คืออะไร
  • วิธีเลือกคีย์เวิร์ดให้ติดอันดับ
  • เทคนิคการทำคอนเทนต์ให้เหมาะกับโซเชียลแต่ละแพลตฟอร์ม

ทั้งหมดนี้จะโยงกลับไปหาเสาหลัก เพื่อบอก Google ว่า เว็บไซต์นี้เชี่ยวชาญเรื่องการตลาดออนไลน์จริง ๆ

ทำไม Content Pillar ถึงสำคัญ

การมีโครงคอนเทนต์ที่ดีไม่ใช่เรื่องของความสวยงามหรือการจัดหมวดหมู่เท่านั้น แต่มันมีผลโดยตรงต่อทั้งการทำ SEO และ ประสบการณ์ผู้ใช้ (UX)

1. Google เข้าใจโครงสร้างเว็บง่ายขึ้น

เพราะทุกบทความเชื่อมโยงถึงกันผ่านเสาหลัก ระบบจะมองว่าเรามี Authority ในหัวข้อนั้น ๆ ทำให้โอกาสติดอันดับสูงขึ้น

2. ผู้อ่านอยู่ในเว็บไซต์นานขึ้น

เพราะจากบทความหนึ่งสามารถคลิกต่อไปอีกบทที่เกี่ยวข้องได้ เช่น อ่านเรื่อง “content pillar คืออะไร” แล้วต่อด้วย “วิธีวางโครงคอนเทนต์ให้ครบทุก content pillar

3. วางแผนคอนเทนต์ง่ายกว่าเดิม

มีแผนภาพชัดว่าเดือนนี้จะเขียน pillar ไหน บทไหนควรเสริม บทไหนควรอัปเดต

โครงสร้างของ Content Pillar ที่ดีเป็นยังไง

เว็บไซต์ที่มี Content Pillar ที่ดี มักจะมี 3 ระดับของเนื้อหาเชื่อมกันชัดเจน

ที่มาภาพ: blog.hubspot

1. Pillar Content 

เนื้อหาหลักที่ครอบคลุมหัวข้อใหญ่ เช่น “Content Marketing คืออะไร”

2. Cluster Content 

บทความย่อยที่เจาะลึกแต่ละประเด็น เช่น “กลยุทธ์ทำคอนเทนต์ให้ปังในปี 2025”

3. Internal Link 

การเชื่อมลิงก์ภายในระหว่างบทความ เพื่อให้ทั้งคนอ่านและ Google เข้าใจความสัมพันธ์ของเนื้อหา

Pillar จะเป็นศูนย์กลาง ส่วน Cluster จะทำหน้าที่สนับสนุนและขยายความ เวลาคนค้นหาคำย่อย ๆ แล้วเข้ามาอ่านเว็บเรา Google จะมองว่ามีความเกี่ยวเนื่องเชิงลึก และให้คะแนนเรื่องความเชี่ยวชาญ หรือ Topical Authority สูงขึ้น

วิธีเริ่มสร้าง Content Pillar ให้เว็บไซต์

1. เริ่มจาก Keyword Research ก่อน

หาหัวข้อหลักจากสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายค้นหาจริง เช่น “content marketing”, “social media”, “seo strategy” จากนั้นจัดกลุ่มคีย์เวิร์ดให้เห็นว่าอันไหนควรเป็นเสาหลัก อันไหนควรเป็นบทสนับสนุน

2. เขียน Pillar Content ให้ครอบคลุม

บทนี้ควรเป็นเนื้อหาขนาดยาว (1,500-2,500 คำ) ครอบคลุมภาพรวมของหัวข้อใหญ่
เช่น ถ้า Pillar คือ “SEO” ก็ควรมีทั้งความหมาย วิธีทำ ประโยชน์ เครื่องมือที่ใช้ และแนวทางอัปเดตล่าสุด

3. แตกบทความย่อย (Topic Cluster)

ใช้คีย์เวิร์ดแตกเป็น Topic Cluster ย่อยออกมา เช่น “on-page seo คืออะไร”, “วิธีเขียน meta description ให้น่าสนใจ”, “seo สำหรับ e-commerce”

4. เชื่อมลิงก์กลับไปยัง Pillar

ทุกบทความย่อยต้องมีลิงก์กลับไปหาเสาหลัก เพื่อให้ระบบเข้าใจว่า Cluster เหล่านี้อยู่ใต้หัวข้อเดียวกัน

5. อัปเดตเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เสาหลักไม่ได้สร้างครั้งเดียวแล้วจบ ต้องอัปเดตเนื้อหาให้สดใหม่อยู่เสมอ เพื่อรักษาอันดับและความน่าเชื่อถือ

ตัวอย่างการใช้งาน Content Pillar จริง

สมมุติคุณทำเว็บเกี่ยวกับ “สุขภาพและโภชนาการ” คุณอาจมี Pillar หลักคือ “อาหารคลีน”, “ออกกำลังกาย”, “วิตามินและอาหารเสริม” แล้วแตกเป็นบทความย่อย เช่น

  • เมนูอาหารคลีนทำง่ายใน 15 นาที
  • ท่าออกกำลังกายสำหรับคนไม่มีเวลา
  • วิตามินที่ควรกินช่วงลดน้ำหนัก

พอทุกบทความโยงกลับมาหา Pillar เดิม Google จะเห็นว่าทั้งหมดอยู่ในหมวด “สุขภาพ” ผลคือเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือด้านนี้มากขึ้น และมีโอกาสติดอันดับในหลายคำที่เกี่ยวข้อง

สรุปได้ว่า การทำ Content Pillar นั้นไม่ได้ยาก แต่ต้องใช้ความเข้าใจทั้งฝั่งคนอ่านและฝั่ง Google เพราะมันคือการวางโครงเรื่องให้เว็บของคุณมีทิศทาง มีจุดยืน และสามารถต่อยอดได้เรื่อย ๆ ยิ่งโครงชัด เนื้อหายิ่งมีน้ำหนัก เว็บไซต์ก็ยิ่งแข็งแรง

BEP Digital Agency พร้อมช่วยคุณวางแผนกลยุทธ์ Content Marketing และสร้าง Content Pillar ที่สอดคล้องกับ SEO และเป้าหมายธุรกิจของคุณ ติดต่อเราได้เลย!

Blogs Recommended

Become a client

Our clients get the best results when they have our team dedicated to their business for extended periods of time.

This is why we are looking for ongoing collaboration where our professionals are like your team members who just happen to be remote. Ready to move forward?

Blog image
Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.

Head Office

719  Mint Tower
Banthat Thong Road, Wang Mai, Pathum Wan district, Bangkok 10330

Phone

095-834-2460

Back to top