การสร้างเว็บไซต์เป็นจุดเริ่มต้นของความน่าเชื่อถือ ความประทับใจแรก และการปิดการขาย แต่จะเริ่มยังไงดี ต้องทำอะไรก่อน หรือใช้แพลตฟอร์มไหน บทความนี้จะช่วยคุณวางแผนอย่างเป็นระบบ พร้อมลงมือสร้างเว็บไซต์แรกให้พร้อมใช้งานจริง โดยไม่หลงทางระหว่างทาง ไปอ่านกันเลย!
7 ขั้นตอนสร้างเว็บไซต์ให้เป็นระบบ
1. เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมาย

ก่อนจะลงมือสร้างเว็บไซต์ ต้องรู้ก่อนว่า “เว็บไซต์ของคุณทำไปเพื่ออะไร” เช่น ขายของออนไลน์ สร้างพอร์ตโฟลิโอ แชร์ความรู้ หรือเป็น Landing Page เก็บ Leads
เป้าหมายจะเป็นตัวกำหนดโครงสร้าง สี การออกแบบเว็บไซต์ และเนื้อหาในเว็บไซต์ทั้งหมด ถ้าไม่รู้เป้าหมายตั้งแต่ต้น ก็จะไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างแท้จริง
2. เว็บไซต์ของคุณคือหน้าร้านออนไลน์

ลองคิดว่าเว็บไซต์เป็นหน้าร้านของคุณในโลกออนไลน์ ลูกค้าเข้ามาแล้วต้องเจออะไรบ้าง เช่น สินค้หรือบริการคืออะไร เราคือใคร ซื้อยังไง ติดต่อยังไง และที่สำคัญ “ทำไมต้องเลือกเรา”
เว็บไซต์ที่ดีควรบอกสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจน เข้าใจง่าย เป็นมิตรกับผู้ใช้ทุกระดับ ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องใช้งานง่าย ตอบโจทย์ และโหลดไวด้วย
3. มองหาแพลตฟอร์มที่เหมาะกับคุณ

ถ้าคุณไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ด ก็ไม่ต้องกังวล ปัจจุบันมีหลายแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้ง่ายและรวดเร็ว เช่น
- WordPress: ยืดหยุ่นสูง เหมาะกับทุกประเภทเว็บไซต์
- Wix: สร้างเว็บได้ง่ายแบบลากวาง ไม่ต้องแตะโค้ด
- Shopify: เหมาะสำหรับสายขายของออนไลน์
- Webflow: สำหรับคนที่อยากได้เว็บดีไซน์เฉียบและสามารถขยายต่อได้ในอนาคต
ดังนั้นควรเลือกเครื่องมือสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่เหมาะกับเป้าหมายและความถนัดของคุณ อย่าเสียเวลาไปกับระบบที่ไม่ตอบโจทย์
4. ออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย & โหลดไว

เว็บไซต์ที่ดีไม่ใช่เว็บที่สวยที่สุด แต่คือเว็บที่ใช้งานได้ดีที่สุด เพราะในปัจจุบันผู้ใช้คาดหวังให้เว็บไซต์โหลดได้เร็ว ใช้งานง่าย และตอบโจทย์ได้ภายในไม่กี่คลิก เราจึงมีทริคเล็ก ๆ มาแนะนำดังนี้
- Responsive Design: เว็บไซต์ต้องแสดงผลได้ดีทั้งบนมือถือ แท็บเล็ต และเดสก์ท็อป เพราะกว่า 70% ของผู้ใช้เข้าเว็บผ่านมือถือ
- โหลดเร็ว: ไม่มีใครรอหน้าเว็บโหลดนานเกิน 3 วินาที ถ้าโหลดช้า ลูกค้าก็พร้อมจะกดปิดทันที
- เน้นความเรียบง่าย: ดีไซน์ที่สะอาด โปร่ง ไม่รก จะช่วยให้ผู้ใช้อยู่กับเว็บไซต์คุณได้นานขึ้น
- แสดงตัวตนของแบรนด์: สี ฟอนต์ รูปภาพ และข้อความ ต้องสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณได้ชัดเจน
5. ทดสอบบนอุปกรณ์และเบราว์เซอร์ต่าง ๆ

เว็บไซต์ที่ดูดีบนจอคุณ อาจพังบนมือถือ หรือผิดเพี้ยนบนเบราว์เซอร์อื่น ดังนั้นการทดสอบเว็บไซต์บนหลากหลายอุปกรณ์และเบราว์เซอร์คือขั้นตอนที่สำคัญ
ลองเปิดเว็บคุณบนมือถือ Android, iPhone, แท็บเล็ต และใช้ทั้ง Chrome, Safari, Firefox เพื่อดูว่า
- ปุ่มกดได้จริงไหม
- ฟอนต์เพี้ยนหรือเปล่า
- มีอะไรโหลดช้าหรือขาดหาย
เพราะประสบการณ์ของผู้ใช้ (User Experience) ที่คำนวณจาก Core Web Vitals จะเป็นตัวตัดสินว่าเขาจะอยู่ต่อหรือกดปิดหน้าเว็บไซต์ของคุณทันที
6. เนื้อหาคือกุญแจสำคัญ

เว็บไซต์สวยแต่เนื้อหาไม่ดี เขียนไม่ตรงประเด็น ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ระบบ Algorithm จาก Google ก็อาจให้คะแนนเว็บไซต์ของคุณต่ำลงตามไปด้วย เป็นเหตุผลที่ว่าทำเว็บดีแค่ไหนก็ไม่ติดอันดับบน Google ดังนั้นคุณควรเริ่มต้นจากการเขียนเนื้อหาให้กระชับ ตรงประเด็น และใช้ภาษาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย
ทริคเขียนเนื้อหาบนเว็บไซต์
- อย่าเขียนเพื่อให้ "ดูดี" แต่ให้เขียนเพื่อให้ "เข้าใจง่าย"
- ใช้รูปภาพที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องดูหรู แต่ต้องดูจริงใจ
- อย่าลืม “Call to Action” เช่น ปุ่มติดต่อ ปุ่มซื้อ หรือปุ่มสมัคร เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้ว่าต้องคลิกไปไหนต่อ
7. เรียนรู้และปรับปรุงอยู่เสมอ

การสร้างเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่คือการเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราแนะนำให้ติดตั้ง Google Analytics หรือเครื่องมือวัดผลอื่น ๆ เพื่อดูว่า
- คนเข้าเว็บไซต์คุณจากช่องทางไหน
- หน้าไหนมีคนดูเยอะที่สุด
- จุดไหนที่คนหลุดออกจากเว็บ
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณปรับเว็บไซต์ให้ดีขึ้น และทำงานให้คุณได้มากขึ้นในอนาคต
พร้อมหรือยัง…ที่จะเริ่มสร้างเว็บไซต์ของคุณ!
ไม่ต้องเริ่มสร้างเว็บไซต์ให้สมบูรณ์แบบตั้งแต่ต้น แค่เริ่มให้ถูกทาง แล้วค่อยปรับระหว่างทางก็ยังทัน จำไว้ว่าเว็บไซต์ที่ดี ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แค่ต้องใช้งานง่าย ตอบโจทย์ และสะท้อนตัวตนของคุณได้ชัดเจน
หากคุณต้องการทีมที่ช่วยให้การสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องง่าย สนุก และเห็นผลจริง BEP Agency พร้อมอยู่ข้างคุณทุกขั้นตอน ทักแชทเลย!